By : tripleplanet Sep 28, 2013

          สำหรับเรื่องราวตอนสุดท้ายนี้จะเป็นเรื่องของช่วงเวลาของพวกเขา ทั้งช่วงเวลาสมัยเป็นเด็กฝึกหัด และเป้าหมายในชีวิต มาเริ่มต้นกันด้วยเรื่องราวของไค ดีโอ คริส และชานยอลกันเลยดีกว่า


เวลาว่าง

[x] ตอนที่พวกคุณมีเวลาว่าง ปกติแล้วจะทำอะไรเวลาอยู่ที่หอพัก

ชานยอล: เมื่อก่อนผมเคยแชร์ห้องนอนกับเทา เขาชอบทำตัวตลกๆเหมือนเด็กๆ พูดเรื่องนี้ที ไปเรื่องนั้น แล้วก็พูดอยู่แบบนั้น จากนั้นเขาก็ทำเหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคนแล้วก็บอกว่า "อ่า ที่นี่มันที่ไหนเนี่ย?"
ซิ่วหมิน: เวลาเขาอยู่คนเดียวเขาก็ไม่เป็นแบบนั้นหรอกนะ แต่เวลาที่สมาชิกคนอื่นรู้สึกเบื่อๆ เขาก็จะทำตัวสนุกสนาน มันออกแนวอ้อนหน่อยๆ ผมหวังว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้น เพราะคนที่ดูอยู่จะรู้สึกอึดอัดน่ะ (หัวเราะ)
เทา: ฮ่าๆๆ ฮยองก็ทำแบบนั้นกับผมเหมือนกันแหล่ะ! พวกเราเล่นแบบนั้นกันที่หอตลอดเลยไม่ใช่เหรอ? คือถ้าผมบอกว่า "ซิ่วหมิน มาทำพร้อมกันนะ" พี่ก็จะ "อือ เอาสิ" 
ซิ่วหมิน: ก็ตอนนั้นผมรู้สึกเบื่อๆด้วยนี่นา
เทา: มันมีท่าตลกๆที่พวกเราชอบทำด้วยกัน ลองทำให้เขาดูหน่อยไหม (หัวเราะ)
ซิ่วหมิน: ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เป็นท่ายิงปืนแล้วอีกฝ่ายก็ทำเป็นโดนยิงแค่นั้น

[x] ได้ยินมาว่าคุณแบ่งทีมเป็น EXO-K และ EXO-M เพื่อเล่นบาสเก็ตบอลกันด้วย

ซิ่วหมิน: ส่วนใหญ่ EXO-M จะเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้วครับ ก็อย่างที่บอก พวกเราเล่นบาสเก็ตบอลกันบ่อยๆ จนทำให้ความอึดของพวกเราเพิ่มขึ้น ตำแหน่งในการเล่นพวกเราแบ่งได้อย่างลงตัวมากๆ คริส คนที่สูงที่สุดยืนเป็นเซ็นเตอร์ ส่วนลู่หานวิ่งเร็ว ก็ให้อารมณ์เหมือนเป็นการ์ด เขาชู้ต 3 แต้มเก่งมากเลยนะ ส่วนเทา บ้าพลัง ก็ให้เล่นเป็นศูนย์หน้า เลย์ก็เหมือนกัน แต่เขาต่างจากเทานิดหน่อย ส่วนผมไม่ค่อยเก่งบาสก็เลยเป็นตัวเก็บบอล (หัวเราะ)
เซฮุน: ก่อนอื่นผมอยากปรบมือให้กับทักษะการเล่นบาสของฝั่ง M ครับ คริสฮยองฉายแววการเป็นนักกีฬามาก สมาชิกคนที่เหลือก็เก่งเหมือนกัน ส่วนฝั่ง K เล่นไม่เป็นกันหรอกครับ (หัวเราะ) เพราะระดับความสามารถของพวกเราต่างกันมาก เราก็เลยพยายามจะหลีกเลี่ยงการเล่นบาสเก็ตบอล สมัยเป็นเด็กฝึกหัดพวกเราก็เลยเล่นเกมกันมากกว่า


ช่วงเวลาที่เป็นเด็กฝึกหัด

[x] ไม่ว่าจะเป็นเวลาสั้นๆหรือยาวนาน พวกคุณทุกคนคงจะต้องมีช่วงเวลาการเป็นเด็กฝึกหัด คุณคิดว่าอะไรที่เป็นอิทธิพลที่คุณได้รับจากช่วงเวลานั้น

ซูโฮ: สมัยเป็นเด็กฝึกหัดก็จะอยู่ในช่วงวัยรุ่น คุณจะต้องรอบคอบและระมัดระวังคำพูด จะต้องมีการแข่งขันกันระหว่างเพื่อนกันเอง เพื่อที่จะก้าวผ่านไปถึงฝันในการเป็นศิลปิน สุดท้ายมันก็จะเป็นชีวิตที่เปรียบได้กับการทำงาน เพราะผมผ่านมันมาได้ตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้ผมกลายเป็นคนที่รอบคอบเกี่ยวกับทุกเรื่อง ไม่ว่าจะทำอะไร
แบคฮยอน: ในอีกแง่มุมนึง ถ้าคุณมีช่วงเวลาที่เป็นเด็กฝึกหัดยาวนาน ความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจจะมีมาก เทียบกับคนที่ฝึกมาในระยะสั้นๆ พวกเขาจะไม่สะทกสะท้านเวลาเจอปัญหาเล็กๆน้อยๆ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผมค่อนข้างเจอกับอุปสรรคนิดหน่อย เรื่องของการร้องเพลง คือผมเดบิวต์มาแล้ว แต่ผมยังไม่เข้าใจว่าผมควรจะร้องเพลงอย่างไร ผมก็เลยกังวลมากๆ ว่าผมควรจะทำยังไงดี แต่ถ้าเป็นซูโฮฮยอง เขาจะไม่เป็นแบบนี้ ผมคิดว่าเขาเข้มแข็งพอ และสามารถอดทนได้เวลาที่จะต้องเจอกับอุปสรรค แน่นอนว่ามันก็มีข้อเสียอยู่ด้วย นิสัยของฮยองจะตรงข้ามกับผมโดยสิ้นเชิง เพราะเราติดอยู่กับความเป็นระบบระเบียบ ซึ่งผมอยากจะกำจัดมันออกไป

[x] นิสัยของพวกคุณต่างกันยังไง

แบคฮยอน: ฮยองจะเป็นคนประเภทที่มักจะมองหากฏเกณฑ์ต่างๆ ส่วนผมเป็นประเภทที่มองหาความสะดวกสบาย อย่างเช่น เวลามีโจทย์เลขคณิต จะมีคนคอยสอนวิธีแก้โจทย์ให้กับผม ผมก็จะคอยหาวิธีคำนวณแบบลัดๆอยู่เสมอ (หัวเราะ) ผมชอบคิดว่า จะทำยังไงดีนะ เพื่อที่จะให้หาทางที่จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด ทำยังไงจะให้ผมจำมันได้เร็วขึ้น มีอยู่ครั้งนึงที่เราอาบน้ำด้วยกัน ซูโฮฮยองบอกผมว่า เพราะผมทำให้เขากลายเป็นคนอ่อนข้อลง ผมมองหน้าฮยองแล้วคิดว่า คนเรามันก็ต้องมีช่วงเวลาที่จริงจังบ้างเป็นธรรมดาแหล่ะ ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนที่เหมือน ขนนกที่ปลิวไปเรื่อยๆบนฟ้า แต่ต้องขอบคุณฮยอง ผมคิดว่าตอนนี้ผมเปลี่ยนไปบ้างแล้วครับ

[x] แล้วช่วงเวลาสมัยที่เป็นเด็กฝึกหัดของสมาชิกคนอื่นๆล่ะเป็นยังไงบ้าง

เซฮุน: ผมโดนเรียกตัวมาแคสติ้งตอนอยู่เกรด 6 และเริ่มเป็นเด็กฝึกหัดตอนมัธยม 2 เพราะว่าตอนนั้นผมยังเด็กอยู่มาก ผมก็ยังสับสนกับชีวิตนิดหน่อย แต่ก็เริ่มคิดได้ตอนขึ้นมัธยมปลายปีแรก 'ผมปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้นะ' เพราะความฝันของคนอื่นๆก็แรงกล้าไม่แพ้กัน ผมจึงเริ่มซ้อมเต้นอย่างจริงจังขึ้นมา 
ซิ่วหมิน: ผมตามเพื่อนไปออดิชั่นและโชคดีที่ผ่านเข้ามาและได้ร่วมงานกับบริษัท ตอนนั้นผมอยู่มัธยมปลายปี 3 กำลังเตรียมตัวสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย เนื่องจากว่าเมื่อเข้าไปจะต้องเป็นเด็กฝึกหัดก่อน ยังไม่ได้เดบิวต์ทันที ผมจึงคิดหนัก แต่สถานที่แห่งเดียวที่ผมเชื่อใจก็คือบริษัท ผมก็เลยทุ่มเทซ้อมมาตั้งแต่นั้น


เป้าหมายของ EXO

[x] คุณรู้สึกยังไงหากจู่ๆ คุณได้กลายเป็นผู้ชายธรรมดาๆคนนึง

คริส: ก่อนหน้านี้ผมเคยฝันว่าอยากเป็นนักบาสเก็ตบอล จะให้พูดจริงๆแล้วผมก็ยังกลับไปเป็นได้อยู่ แต่ตราบใดที่ผมจะต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ตรงนั้นผมคงจะไม่สามารถยอมรับมันได้ครับ คนส่วนใหญ่ก็คงคิดแบบนี้ เพราะ 4-5 ปีก่อน ผมเดินทางมาต่างบ้านต่างเมือง มาที่เกาหลีและตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก ถ้าจู่ๆผมจะมาสูญเสียอาชีพนี้ไป ผมคิดว่าผมคงจะเสียใจและตกใจอยู่ไม่น้อย 
เซฮุน: ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ ผมเข้าใจดีว่ามันมีอิสระ และมีโอกาสดีๆหลายอย่าง แต่ผมก็ไม่อยากกลับไปเป็นแบบนั้น (หัวเราะเขินๆ) เพราะว่าผมคือ EXO

[x] คุณเดบิวต์มา และตอนนี้คุณเริ่มจะมีชื่อเสียงขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วคุณก็จะต้องยุ่งมากๆ คุณจะต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกระยะนึง อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณคิดว่าทุกๆคนควรจะรักษาเอาไว้ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากเพียงใด

เลย์: มีสิ่งนึงที่พวกเราทำมาจนตอนนี้ครับ คือการไม่ลืมพูดคำว่า "ขอบคุณ" เวลาที่มีใครสักคนทำอะไรเพื่อเรา
เฉิน: การรักษาคำพูด แม้ว่าพวกเราจะเติบโตขึ้นไปและเลิกเป็นไอดอล เราก็ควรจะแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนรักษาคำพูด เราสามารถเก็บภาพลักษณ์ดีๆไว้ให้คนอื่นๆชื่นชมได้ครับ
แบคฮยอน: ผมอยากจะสัญญาอะไรบางอย่างกับสมาชิกในวง แม้ว่าเราจะมีเวลาว่าง เวลากลับบ้าน เวลาที่จะไปพบเพื่อนๆ หรือเวลาออกกำลังกาย เอาเข้าจริงแล้ว ผมคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลาของพวกเราที่จะสนุกสนานกัน ผมคิดแบบนั้น แต่..จนถึงอายุ 35? ผมคิดว่าไม่มีพวกเราคนไหนจะลืมเรื่องว่า 'พวกเราเคยอยากเป็นคนแบบไหน' ได้ ตอนที่ได้เดบิวต์ พวกเราลุ่มหลงอยู่กับความปิติยินดี แต่ผมหวังว่าจะไม่มีใครลืมเป้าหมายของตัวเอง เพราะการมีเป้าหมาย ทำให้ผมมองไม่เห็นภาพที่ EXO จะแตกแยกกันไปเลยครับ
ซูโฮ: สำหรับผมแล้ว คือการรักสมาชิกทุกคนใน EXO ไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง
แบคฮยอน: ซูโฮฮยองจะเป็นคนคอยชี้แนวทางที่ดีให้กับพวกเราครับ เพราะเขาเป็นคนที่สมบูรณ์แบบมาโดยตลอด

[x] งั้นอะไรคือเป้าหมายร่วมกันของ EXO ล่ะ
เลย์: ตอนนี้ มากกว่าการที่จะคิดว่ามีใครเพียงคนหนึ่งโด่งดังในวง ผมคิดว่าอยากจะให้ทุกๆคนรู้จักเราในนาม EXO มากกว่า ลีดเดอร์ซูโฮของพวกเราครั้งนึงเคยพูดว่า "เป้าหมายของพวกเรา คือการที่ EXO จะเป็นที่จดจำของคนเกาหลีทั้งหมด 50 ล้านคน" ผมคิดว่าเส้นทางนี้สำหรับพวกเรายังอีกยาวไกลครับ

[x] คุณคิดว่ามีกี่คนแล้วที่จดจำ EXO ได้ตอนนี้
ซูโฮ: ผมคิดว่าถ้าเป็นวัยรุ่นน่าจะ 9 ใน 10 ได้ครับ ส่วนคนช่วงอายุเลข 2 น่าจะเป็น 6 ใน 10 (หัวเราะ)

[x] สุดท้าย ขอหนึ่งคำที่จะบอกความเป็น EXO
คริส: ของผม EXO คือพิซซ่า สมาชิกแต่ละคนเปรียบเหมือนพิซซ่าแต่ละชิ้น สมาชิกทั้ง 12 คนจะต้องอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นหนึ่งเดียว
ดีโอ: มันจะไม่เพอร์เฟคต์ ถ้าหากมีใครคนใดคนหนึ่งขาดหายไปครับ

Source: IZE.co.kr
EN Trans: nahbit @ exok-trans
TH Trans: tripleplanet-th (@triple_planet)
โปรดนำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมด

Leave a Reply

Subscribe to Posts | Subscribe to Comments

Copyright © TRIPLEPLANET-TH.COM - www.tripleplanet-th.com All rights reserved. Best viewed in Mozilla Firefox 3.5 and above with 1366x768 resolution.