By : tripleplanet Oct 24, 2013



ลู่หาน กวางที่นายพรานไม่อาจจะล่าได้
     ไม่มีความจำเป็นจะต้องหาคำพูดให้มากมาย เพื่อมาอธิบายความงดงามของลู่หาน นอกเหนือจากคำว่างดงาม เขายังมีออร่าแห่งความน่ารัก ราวกับกวางที่นายพรานนั้นไม่อาจจะล่าได้ ลู่หานพูดจาด้วยสำเนียงผู้ชายปักกิ่งขนานแท้ เขาคือบุคคลแสดงถึงการผสมผสานระหว่างความละเอียดอ่อนและความหล่อเหลาไว้ด้วยกัน ช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์จริงๆ

Q: ก่อนที่จะไปเกาหลี ชีวิตในปักกิ่งของคุณเป็นอย่างไร?
ลู่หาน: ผมเป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดา มีเรียนทุกวัน อยู่หอพักในโรงเรียน กลับบ้านทุกคืนวันศุกร์ อยู่บ้านสองวัน จากนั้นก็กลับไปโรงเรียนอีกครั้ง เป็นชีวิตปกติธรรมดาเหมือนคนอื่นๆ

Q: ที่บ้านของคุณสนับสนุนให้คุณเดบิวต์เป็นศิลปินไหม? มุมมองของเพื่อนของคุณเป็นอย่างไรกับการที่คุณได้เป็นดารา?
ลู่หาน: ตอนแรกผมไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เกาหลี ก่อนจะเดบิวต์ ผมก็มุ่งหวังที่จะได้เป็นศิลปิน คุณพ่อของผมก็สนับสนุนผมมาก ตอนแรก คุณแม่ก็ไม่เห็นด้วยนิดหน่อย เพราะท่านรู้สึกว่างานนี้มันไม่มั่นคงและไม่น่าเชื่อถือ และมันเป็นเส้นทางที่ไม่สามารถหันหลังกลับมาได้ เพื่อนของผมรู้สึกไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ แต่หลังจากที่เห็นความพยายามของผมแล้ว เขาก็เข้าใจดี

Q: สิ่งที่ยากที่สุดตอนที่ไปอยู่เกาหลี?
ลู่หาน: เป็นเรื่องของกำแพงทางภาษาครับ เพราะมันไม่ใช่ภาษาที่ผมใช้อยู่ประจำ

Q: ถ้าให้คุณแนะนำอะไรก็ได้เกี่ยวกับปักกิ่ง ให้เพื่อนชาวเกาหลีของคุณรู้จัก คุณจะแนะนำอะไร?
ลู่หาน: กำแพงเมืองจีนครับ..

Q: ส่วนตัวแล้ว คุณชอบสถานที่แบบไหน?
ลู่หาน: ผมชอบคาเฟ่ในปักกิ่งครับ ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบเข้าร้านคาเฟ่ อย่างเช่น ร้านที่ใกล้ๆบ้านผม ย่าน Haidingqu และ Zhongguchun ผมบอกมากไม่ได้ครับ กลัวว่าแฟนๆจะตามไปเจอผม ฮ่าๆ


เทา เจ้าชายที่หลุดมาจากในเทพนิยาย
     แม้อยู่ท่ามกลางฝูงชน หวงจื่อเทาแทบไม่ต้องทำอะไรเลยเพื่อที่จะทำให้ตัวเองดูโดดเด่นสะดุดตา ด้วยความสูงของเขา และที่สำคัญ เขาเป็นคนที่มีรูปร่างบอบบาง ยิ่งทำให้ดูสูงขึ้นไปอีก วันนี้ ต่างหูสองข้างของเขาส่องประกายวิบวับ ให้ความรู้สึกแตกต่างจากสมาชิกคนอื่นๆ เทามีออร่าแห่งความร้ายกาจอยู่บริเวณหน้าผากของเขา แวมไพร์ เจ้าชายที่มีมาดหยิ่งๆ...เขาดูเหมือนตัวเอกที่หลุดมาจากในเทพนิยาย เทามาจากชิงเต่า เมืองริมทะเลที่เต็มไปด้วยปราสาทโบราณสไตล์ยุโรป

Q: ชิงเต่าเป็นเมืองที่สวยมาก ในฐานะที่คุณเติบโตมาในเมืองชิงเต่า คุณมีอะไรจะแนะนำบ้านเกิดของคุณให้กับทุกๆคนบ้าง?
เทา: มันเป็นเมืองที่สวยมากครับ จอแจ และมีกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์ ...ชายหาดที่ชิงเต่าก็มีชื่อเสียงด้วยครับ คุ้มค่าสำหรับการมาเยี่ยมชมมากๆ

Q: สิ่งที่ยากที่สุดตอนเป็นเด็กฝึกหัดคืออะไร?
เทา: ช่วงเวลาตั้งแต่ที่ผมเข้ามาในบริษัทเป็นช่วงเวลาที่สั้นที่สุดเลยครับ นับถึงวันนี้เพิ่งได้ประมาณปีเดียว เพราะฉะนั้นการที่จะตามคนอื่นๆให้ทันในระยะเวลาสั้นๆ ผมจะต้องใช้ความพยายามมากกว่าเดิม นี่คือสิ่งที่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เหนื่อยยากที่สุดครับ

Q: ดาราคนแรกที่คุณชอบคือใคร? อะไรที่คุณชอบในตัวเขา?
เทา: ผมไม่เคยชอบดาราคนไหนเลยครับ ผมชอบพวกเขาจากตัวงาน ไม่ใช่ตัวของเขา แล้วมันก็เป็นเหมือนเดิมแบบนั้นมาจนทุกวันนี้ครับ

Q: ในฐานะที่คุณรับหน้าที่วูซูประจำวง คุณสั่งสมประสบการณ์ในการฝึกวูซูขั้นพื้นฐานอย่างไร?
เทา: ผมเริ่มฝึกวูซูมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ฝึกมาตั้งแต่เล็กๆจนมาถึงปัจจุบัน แล้วก็เคยเข้าแข่งขันมาหลายรายการ (หมายเหตุ: จริงๆแล้วการตอบคำถามสัมภาษณ์จบลงแค่นี้ แต่หลังจากนั้นสักพัก เทาก็อธิบายเสริมขึ้นมา) ผมอยากจะพูดให้กระจ่างว่า การที่ผมรับหน้าที่วูซูประจำวงนั้นหมายความว่า ผมจะแสดงก็ต่อเมื่อมีสคริปต์ที่ต้องใช้ท่าวูซูนะครับ ยังไงความสนใจด้านอาชีพของผมก็ยังคงเป็นเรื่องดนตรี ผมเป็นแร็ปเปอร์นะครับ!


ซิ่วหมิน ซาลาเปาผู้มีแววตาราวกับดอกซากูระ
     เขาเป็นคนตัวเล็ก ดูเผินๆเหมือนเด็กมัธยมต้น ด้วยหางตาที่โค้งขึ้น ทำให้ดูเหมือนดอกซากูระที่เคยมีคนกล่าวเอาไว้ตั้งแต่สมัยก่อน ระหว่างการสัมภาษณ์ เขาจะจ้องหน้าคุณด้วยแววตาจริงจัง ปรากฏรอยยิ้มจางๆอยู่บนบหน้า ด้วยการท่าทีในการนั่ง วางเท้าทำให้คุณเชื่อได้เลยว่า "เด็กมัธยมต้น" คนนี้ ไม่ได้ไปทำเรื่องเกเรที่ไหนแน่นอนหลังเลิกเรียน

Q: ชื่อเล่นของคุณ ทำไมถึงเป็น "ซาลาเปา"?
ซิ่วหมิน: "เปาจื่อ" ชื่อเล่นนี้ลู่หานเป็นคนตั้งให้ผม เพราะเมื่อก่อนสมัยที่เดบิวต์ใหม่ๆ หากเทียบกับตอนนี้แล้วผมจะค่อนข้างอวบๆ ขาวๆ อวบๆ ก็เลยเหมือนซาลาเปา เขาก็เลยเรียกผมว่า "เปาจื่อ" หลังจากนั้นแฟนๆก็เริ่มเรียกผมชื่อนั้นเหมือนกัน มันก็เลยถูกแพร่ไปครับ

Q: แล้วคุณเคยทานซาลาเปาของจีน (เสี่ยวหรงเปา) หรือซาลาเปาทอดในเซี่ยงไฮ้บ้างหรือยัง? รสชาติมันเป็นอย่างไรบ้าง?
ซิ่วหมิน: ผมยังไม่เคยทานเลยครับ น่าเสียดาย ผมอยากลองทานอยู่เหมือนกัน

Q: คุณเล่นเทควอนโด้กับกีฬาฟันดาบได้ ทำไมถึงไปเรียนมา? เริ่มเรียนตั้งแต่ตอนไหน? มีช่วงเวลาที่คุณไม่เคยลืมตอนซ้อมบ้างไหม?
ซิ่วหมิน: สมัยผมเด็กๆ มันจะมีโรงเรียนสอนศิลปะป้องกันตัวอยู่หน้าโรงเรียน ซึ่งตอนนั้นกำลังรับสมัครเด็กนักเรียนครับ เขาแปะโฆษณาไว้ว่า : ถ้าคุณมาสมัครเรียนกับเรา เราจะแถมของเล่น! คือผมอยากได้ของเล่นมากเลย ผมก็เลยกลับบ้านไปและไปขอคุณพ่อคุณแม่ให้มาสมัครเรียนวูซู พ่อแม่ของผมก็รู้สึกว่ากีฬาวูซูจะทำให้ร่างกายแข็งแรงด้วย ท่านก็เลยเห็นด้วย สุดท้ายผมก็เลยได้เรียนครับ

Q: ฮ่าๆ แล้วของเล่นนั้นคืออะไร?
ซิ่วหมิน: เป็นตัวการ์ตูนจากในหนังสือการ์ตูนครับ สามารถยิงลูกกระสุนออกมาจากกลางอกด้วย

Q: ได้ยินมาว่าคุณชื่นชอบ Jay Chou และ JJ Lin คุณชื่นชมอะไรในตัวพวกเขา?
ซิ่วหมิน: Jay Chou เป็นนักร้องชาวจีนที่ผมคุ้นเคยมากที่สุดครับ ไม่ใช่แค่เรื่องการร้องเพลงและทักษะการแต่งเพลงที่โดดเด่นอย่างเดียว เขายังเป็นคนกำกับภาพยนตร์ด้วย ความสามารถของเขาหลากหลายจริงๆครับ ส่วน JJ Lin ผมรู้จักหลังจากเพื่อนผมคนนึงเปิดเพลงของเขาให้ผมฟัง ผมชอบเสียงของเขามาก และเพลงของเขาส่วนใหญ่ก็แต่งเอง มันยอดเยี่ยมมากครับ



เฉิน ลิ้มลองรับประทานลิ้นเป็ดเป็นครั้งแรก
     คิม จงแดอาจจะไม่ใช่คนที่อายุมากที่สุด แต่เขาเป็นคนที่มีออร่าแห่งความเป็นผู้ใหญ่โดยธรรมชาติ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เวลาที่มองดูเขา มันทำให้พลางนึกถึง เบ..ยอง..จุน... บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเขาใส่แว่นตามาในวันนี้ล่ะมั้ง?

Q: ใครคือชาวจีนคนแรกที่คุณรู้จัก?
เฉิน: บรูซ ลี ครับ ตอนที่ผมดูภาพยนตร์ที่เขาแสดง ผมรู้สึกว่ามันเหลือเชื่อมากๆ ! ภาพลักษณ์และเสน่ห์ของเขาฉายออกมาทางจอภาพยนตร์ จนมันทำให้ผมอยากจะไปเรียนวูซูแบบเขาเลยล่ะครับ

Q: อะไรคือสิ่งที่คุณประทับใจเกี่ยวกับประเทศจีน ตั้งแต่สมัยเด็กๆ?
เฉิน: ผมเคยเรียนวิธีการเขียนตัวอักษรจีน (ฮันจา) มาตั้งแต่เด็กๆ ที่โรงเรียนก็สอนมาเยอะพอสมควรเรื่องเกี่ยวกับประเทศจีน ผมก็เลยไม่รู้สึกว่าจีนเป็นประเทศที่ห่างไกลมาตั้งแต่ยังเด็กๆแล้วครับ

Q: อะไรคือความแตกต่าง ในสิ่งที่คุณเคยจินตนาการเอาไว้เกี่ยวกับประเทศจีน
เฉิน: มีหลายอย่างเลยครับที่แตกต่าง อย่างเช่นเรื่องอาหาร เมื่อวานนี้ ในเซี่ยงไฮ้ ผมได้ลองทานลิ้นเป็ดเป็นครั้งแรก ซึ่งสมัยก่อนผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้มาลองทานลิ้นเป็ดจริงๆ

Q: เรียนภาษาจีนเป็นยังไงบ้างตอนนี้?
เฉิน: เนื่องจากพักนี้งานพวกเรายุ่งมากเลยครับ แผนการเรียนจีนของผมก็มักจะโดนเลื่อนออกไป ก็เลยไม่ค่อยได้มีเวลาเรียนสักเท่าไหร่ แต่เนื่องจากได้อยู่ด้วยกันกับสมาชิกชาวจีน ทักษะการฟังของผมก็ค่อนข้างพัฒนาขึ้นกว่าเดิมมาก ตอนนี้ผมก็สามารถฟังภาษาจีนเข้าใจแล้วครับ แต่ยังขาดทักษะในเรื่องการพูดอยู่

Q: สิ่งที่ยากที่สุดในภาษาจีนคืออะไร?
เฉิน: การออกเสียงสูงต่ำในภาษาจีนทำให้ผมรู้สึกว่ามันยากมากเลยครับ มีหลายครั้งเลยที่หากเราออกเสียงไม่ถูก ความหมายมันก็เปลี่ยนไปทั้งหมด



เลย์ ราชาผู้มีนิสัยขี้เล่นและคิดถึงอาหารหูหนาน
     จาง อี้ชิง บุคคลที่มักจะสร้างความประทับใจให้ผู้คนมากมาย แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่หล่อเหลาที่สุด แต่เหตุผลที่เขาสามารถสร้างความประทับใจให้กับคนอื่นๆนั้นอาจจะเป็นเพราะการที่เขาเป็นคนช่างพูด ช่างคุยมากที่สุด รวมไปถึงการแสดงออกอย่างสนุกสนาน ท่าทางของเขาที่เบิกตากว้างขณะที่ทำการสัมภาษณ์ ทำให้คุณรู้สึกว่าเขาจริงจังและกระตือรือร้นที่จะให้สัมภาษณ์ บางครั้งที่เขาพูด สำเนียงหูหนานจะหลุดออกมาโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัว มันทำให้คุณรู้สึกว่า อ่า..แม้ว่าเขาจะอยู่ในเกาหลี แต่เขาก็ยังเป็นชาวจีนอยู่ !

Q: คุณเป็นอย่างไรตอนอยู่ที่ฉางชา?
เลย์: ก็ใช้ชีวิตปกติครับ เรียนชีววิทยา เคมี และเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนั้นผมกังวลแทบตายเลย เรื่องสอบเข้า

Q: แล้วการมาเป็นศิลปินนี่ก็แสดงว่ามันได้ช่วยชีวิตคุณไว้น่ะสิ?
เลย์: ใช่เลยครับ ฮ่าๆ (ยอมรับอย่างตรงๆ แมนๆ !)

Q: ชาวหูหนานชอบทานอาหารเผ็ด คุณได้ทานอาหารพื้นเมืองหูหนานบ้างไหมในเกาหลี? 
เลย์: ไม่ได้ทานเลยครับ ผมพลาดจริงๆ (พูดด้วยสีหน้าจริงจัง) จะมีก็แต่ตอนที่คุณแม่ผมมาเยี่ยมที่เกาหลี แล้วท่านก็เอาอาหารที่ท่านทำเองมาให้ผม หรือไม่ก็ทำให้ผมทานที่เกาหลีเลยนั่นล่ะครับ

Q: มีอะไรที่คุณอยากทำให้มันสำเร็จไหมช่วงนี้?
เลย์: แต่งเพลงครับ ส่วนใหญ่จะแต่งทำนอง แต่ถ้าเป็นเนื้อร้องผมก็อยากจะลองแต่งดูทั้งภาษาจีนและเกาหลีครับ

Q: บรรดาแฟนๆของคุณได้จัดตั้งกองทุนมูลนิธิขึ้นมาในชื่อคุณ คุณคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้?
เลย์: ผมได้ยินมาบ้างครับ ผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อมากจริงๆ และมันก็เป็นสิ่งที่มีความหมายมากๆ แต่ผมก็หวังว่าแฟนๆจะทำโดยรู้ลิมิตครับ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการดูแลตัวเอง



คริส ผู้ที่ใช้ชีวิตไปกับการเดินผ่านสนามบิน
     แม้ว่าจะเป็นคนที่ไม่รู้จัก EXO มาก่อน หากได้มาเห็นรูปภาพสุดเจ๋งของเหล่าสมาชิก EXO ที่สนามบิน ซึ่งกำลังถูกเผยแพร่อย่างหนักผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค Weibo นั้น ท่ามกลางสมาชิกคนอื่นๆ หนึ่งในคนที่น่าจับตามองมากที่สุดคือ อู๋ อี้ฟาน ! ทั้งสไตล์การแต่งตัว การโพสต์ เขาเลยได้สมญานามว่าเป็น "หนุ่มที่ใช้ชีวิตไปกับการเดินผ่านสนามบิน" คริสในรูปภาพนั้นดูเท่มาก แต่ในชีวิตจริง เมื่อได้ลองคุยกับเขาแล้ว เขาเป็นคนหนึ่งที่เข้าถึงได้และอบอุ่นมากทีเดียว

Q: ภาพที่คุณวาดนั้นเป็นภาพแนวแอ็บสแตร็ก คุณเคยคิดจะเป็นจิตรกรบ้างไหม?
คริส: ฮ่าๆๆ (หยุดหัวเราะไม่ได้) ไม่เลยครับ ครั้งหนึ่งผมเคยวาดรูปออกรายการโชว์ มันเป็นรูปแรด แต่ไม่เคยมีใครเห็นว่ามันเป็นแรดเลยสักคนครับ มันคงแอ็บสแตร็กเกินไปมั้ง จากนั้นมาทุกๆคนก็พากันเรียกผมว่า นักวาดภาพแนวแอ็พสแตร็ก ฮ่าๆ จิตรกรน่ะเหรอครับ? อันนั้นแฟนๆเขาล้อกันเล่นเฉยๆ

Q: ปกติแล้วการแต่งกายของคุณค่อนข้างทันสมัย โดยเฉพาะแฟชั่นในสนามบิน ซึ่งหลายคนก็บอกว่าคุณคือคนที่ใช้ชีวิตไปกับการเดินผ่านสนามบิน ไหนลองอธิบายหน่อยสิ?
คริส: ฮ่าๆ (หัวเราะอีกแล้ว เขาคงจะชอบหัวเราะจริงๆ) ผมมีความสนใจทางด้านแฟชั่น โดยส่วนตัวแล้วผมจะค่อนข้างใส่ใจในเรื่องการแมตช์เสื้อผ้า แต่ปกติเวลาที่เราต้องขึ้นแสดงเป็นกลุ่ม เราก็จะมีเสื้อผ้าของกลุ่มอยู่แล้ว แต่ในเวลาส่วนตัว ผมก็อยากจะมีสไตล์เป็นของตัวเอง จะได้ให้ทุกๆคนได้เห็นด้านที่แตกต่างในตัวผมไงครับ

Q: คุณใช้ความพยายามอย่างมากเลยใช่ไหมที่จะแมตช์เสื้อผ้าของคุณ เวลาที่คุณออกไปข้างนอก?
คริส: ก็ไม่เชิงว่าจะพยายามขนาดนั้นนะครับ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ตอนนั้นด้วย แต่ผมว่ามันก็สนุกดีนะครับ เพราะเรื่องแฟชั่นเป็นอะไรที่ผมสนใจอยู่แล้ว

Q: การเป็นคนดังกับสิ่งที่คุณเคยคาดหวังเอาไว้ มันแตกต่างกันอย่างไร?
คริส: ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากนักครับ เพราะผมเข้าใจดีอยู่แล้วว่าทุกๆอาชีพต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เบื้องหลังความยินดีนั้น ก็ต้องแลกมาด้วยความพยายาม ต้องสูญเสียความเป็นอิสระไป และทำงานอย่างหนัก ผมเตรียมรับมือไว้ทุกอย่างแล้วครับ แล้วผมก็คอยบอกตัวเองว่า ก็แค่ทำให้ทุกๆอย่างมันเหมือนปกติ

Q: คุณชอบการเป็นดาราไหม? มีความฝันอย่างอื่นหรือเปล่า?
คริส: แน่นอนครับว่าผมชอบ แต่ผมก็มีความใฝ่ฝันอย่างอื่นเหมือนกันนะ ก็คือการเล่นบาสเก็ตบอล และการเป็นนักบาสเก็ตบอลครับ จริงๆแล้ว เวลาที่มีโอกาส ผมก็จะไปเล่นบ่อยๆน่ะครับ

Q: ทั้งการเป็นนักบาสเก็ตบอล และการเป็นนักร้อง ทั้งสองอาชีพนี้ ต่างก็เป็นอะไรที่จะต้องเลือกทำในวัยเด็ก มันหมายความว่า คุณจะล้มเลิกสิ่งหนึ่งเพื่อไปทำอีกสิ่งหนึ่งหรือเปล่า?
คริส: ใช่ครับ ยิ่งเลือกทำอย่างหนึ่ง ความฝันอีกอย่างหนึ่งก็จะยิ่งไกลห่างออกไปครับ (พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ)

EN Trans: boonyi
TH Trans: tripleplanet-th (@triple_planet)
โปรดนำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมด

Leave a Reply

Subscribe to Posts | Subscribe to Comments

Copyright © TRIPLEPLANET-TH.COM - www.tripleplanet-th.com All rights reserved. Best viewed in Mozilla Firefox 3.5 and above with 1366x768 resolution.